วันนี้ (23 ก.ย.64) นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รอง ผวจ.ยะลา พร้อมด้วย นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นพ.สสจ.ยะลา นพ.อินทร์ จันแดง ผอ.รพ.ยะลา ร่วมกันแถลงข่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดยะลา ภายหลังจากที่จังหวัดยะลาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ถึงจำนวน 671 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกจำนวน 1 ราย

        นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รอง ผวจ.ยะลา กล่าวว่า ยอดที่เพิ่มขึ้นมาจากการตรวจเชิงรุกของสำนักงานสาธารณสุขยะลา ตรวจพบในโรงงานและสถานประกอบการบางส่วน อีกส่วนหนึ่งคือเกิดจากการผ่อนคลายมาตรการของจังหวัดที่เปิดให้ประชาชนได้ทำกิจกรรมทำให้ประชาชนเริ่มการ์ดตก ไม่ปฏิบัติตามมาตรการของทางราชการกำหนด ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ขณะนี้ทางจังหวัดยะลาจึงได้มีคำสั่งออกมาล่าสุดถึงการบังคับและเข้มงวดในการเดินทางเข้า-ออกจังหวัด รวมถึงเข้มงวดการใช้บริการในร้านอาหารของประชน จนนำไปสู่การตรวจ ATK เชิงรุกทั้งในสถานประกอบการรวมถึงสถานที่ราชการ

        ขณะที่ นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นพ.สสจ.ยะลา กล่าวว่า จังหวัดยะลาพบผู้ป่วยที่เดินเข้ามาตรวจในคลินิกโรคทางเดินหายใจรวมถึงกลุ่มเสี่ยงที่เข้ามาตรวจยังโรงพยาบาลต่างๆ ใน 600 คน คน พบในสัดส่วน 1 ใน 3 แสดงว่าในขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าไปค้นหาเชิงรุกในชุมนั้น ไม่พบกลุ่มดังกล่าว จนกระทั่งได้แพร่กระจายให้กับคนอื่นๆ ซึ่งคนเหล่านี้อาจรู้ว่าตัวเองเสี่ยงแต่ไม่พร้อมที่จะเข้ารับการตรวจ แต่ทั้งนี้อนาคตหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น คงไม่ถึงต้องขั้นต้องล็อคดาวน์หรือปิดเมือง แต่ประชาชนต้องอยู่กับโรคให้ได้ เพราะเมื่อมีการออกมาตรการล็อคดาวน์ผลกระทบจะเกิดขึ้นอย่างมหาศาล แต่อาจเป็นการปิดเป็นกลุ่มย่อยๆหรือเป็นจุดๆไป ตรงไหนที่มาตรการไม่เข้มงวดก็จะสั่งปิดตรงนั้น เพื่อไม่ให้กระทบกับคนหมู่มาก ดังนั้นขอให้ประชาชนทุกคนมีวินัย ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัดแล้วทุกคนก็จะสามารถอยู่กับโควิดได้อย่างปลอดภัย

        ทางด้าน นพ.อินทร์ จันแดง ผอ.รพ.ยะลา กล่าวว่า สถานการณ์เตียงผู้ป่วยโควิดจังหวัดยะลาที่รองรับในปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 3 พันกว่าเตียง ซึ่งหากเกิดการติดเชื้อที่สูงขึ้นต่อเนื่องวันละ 600-700 คน ไม่นานเตียงก็จะเต็ม โดยขณะนี้เตียงว่างมีทั้งหมด 380 เตียง และสิ่งที่ยังเป็นกังวลคือ เมื่อยอดผู้ป่วยสูงต่อเนื่องอาจต้องเปลี่ยนใช้ระบบรูปแบบในการนอนของผู้ป่วย คือ ผู้ป่วยสีแดง เหลือง ให้พักอยู่ รพ.สีเหลืองอ่อน อยู่ รพ.สนาม สีเขียวอยู่ศูนย์พักคอยชุมชน หรือ CI และบางคนอาจจะต้องอยู่บ้าน หรือ HI แต่ทั้งนี้จะใช้ระบบการสื่อสารผ่านทางระบบทุกอย่าง ดังนั้นหากจะเฉลี่ยจำนวนของประชากรในจังหวัดยะลาทั้ง 5 แสนคน จะพบผู้ติดเชื้อ 100 คน ต่อ 1 คน และหากยังไม่มีการกักตัวที่ดีก็จะเกิดการแพร่กระจายเป็นวงกว้างไปอย่างนี้เรื่อยๆ

#สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ #NNT #ILOVETHAILAND