คณะพระสังฆาธิการและพระสงฆ์ พร้อมด้วยเครือข่ายไทยพุทธในพื้นที่ จชต. เดินทางเข้าเฝ้า เพื่อกราบบังคมทูลสมเด็จพระสังฆราชสกลมหา สังฆปริณายก

          พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้การต้อนรับคณะพระสังฆาธิการ และผู้นำเครือข่ายพุทธศาสนิกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะ รวมถึงการมีส่วนร่วมของพระสงฆ์และฆราวาสจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในโอกาสก่อนเดินทางเข้าเฝ้า เพื่อกราบบังคมทูลสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง ระหว่างวันที่ 23-29 ตุลาคม 2564 โดยมีพระครูโฆษิตสุตาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดบูรพาราม ประธานสมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้นำเครือข่ายพุทธศาสนิกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่า 64 รูป/คน เข้าร่วม

          เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า การใช้ชีวิตของพระสงฆ์ และพี่น้องประชาชนชาวไทยพุทธ ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ฯ และภายใต้สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ส่งผลให้การปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนา โดยเฉพาะพระสงฆ์ไม่สามารถกระทำได้ ศอ.บต. ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการขับเคลื่อนและส่งเสริมสนับสนุนพุทธศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้กิจกรรมต่าง ๆ โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้มแข็งและให้กำลังใจแก่พุทธศาสนิกชน ซึ่งภาครัฐไม่สามารถทอดทิ้งทุกเชื้อชาติ ศาสนา ให้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้เพียงลำพัง แต่เราจะร่วมมือกันแก้ไขปัญหา เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กลับมาดำเนินชีวิตภายใต้วิถีพหุวัฒนธรรมอย่างสงบสุข

          ด้านผู้แทนสมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้กล่าวถึงความรู้สึกในครั้งนี้ว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่ ศอ.บต. ได้มอบโอกาสให้กับชาวพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ อีกทั้ง ในการเดินทางไปเข้าเฝ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาน สมเด็จพระสังฆราชสกลมหา สังฆปริณายก ซึ่งรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ครั้งนี้ เพื่อนำกลับมาพัฒนาพื้นที่ต่อไป

          สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ คณะพระสังฆาธิการ และผู้นำเครือข่ายพุทธศาสนิกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีกำหนดเข้าเฝ้าเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาน สมเด็จพระสังฆราชสกลมหา สังฆปริณายก เพื่อกราบสักการะพระสงฆ์ผู้มีสมณศักดิ์ ตลอดจนเดินทางไปเยี่ยมชมวัดวาอารามที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อส่งเสริมให้แกนนำและเครือข่ายด้านพระพุทธศาสนาเกิดความเข้มแข็ง และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม สืบทอดและทำนุบำรุงกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป


image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar