26 มีค.67-เวลา 10.40 น. ที่ห้องประชุมยะลารวมใจ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พลตำรวจโท ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9/รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า พร้อมด้วย พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4, พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมแถลงข่าว “สรุปผลการปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” โดยการแถลงข่าวในครั้งนี้มีการรายงานความคืบหน้าคดีสำคัญผ่าน Presentation จากกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้

พลตำรวจโท ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9/รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า กล่าวว่า คดีแรก จากการสืบสวนสอบสวนขยายผล ทราบว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่น่าเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ ในพื้นที่อำเภอกรงปินัง และอำเภอบันนังสตา โดยเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้เข้าพิสูจน์ทราบ กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง จำนวน 6 เป้าหมาย เจ้าหน้าที่ได้บังคับใช้กฎหมายและทำการเชิญตัวผู้ต้องสงสัยเข้าสู่กระบวนการซักถาม จำนวน 9 คน มีผู้ก่อเหตุรายสำคัญจำนวน 2 คน คือ จากการซักถาม ให้การรับสารภาพว่าอยู่ในขบวนการ จำนวน 5 คน ศาลจังหวัดยะลาอนุมัติหมายจับแล้ว จำนวน 5 คน และดำเนินคดีจำนวน 6 คน

คดีที่ 2 เหตุคนร้ายประกบยิง อาสาสมัครชุดคุ้มครองตำบลพร่อน อ.ตากใบ จว.นราธิวาส เสียชีวิต จำนวน ๒ คน คนร้ายถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 คน ในพื้นที่ บ.โคกยาง ต.พร่อน อ.ตากใบ จว.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 ก.พ.67จากการสืบสวน ทราบตัวผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวน 9 คน จึงบังคับใช้กฎหมายเชิญตัวผู้ต้องสงสัยเข้าสู่กระบวนการชักถาม จำนวน 2 คน จากการซักถามรับสารภาพว่าเป็นผู้ร่วมก่อเหตุ จำนวน 1 คน และศาลจังหวัดนราธิวาส ได้อนุมัติหมายจับแล้ว จำนวน 9 คน อยู่ในกระบวนการซักถาม จำนวน 2 คน อีก 7 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุม

คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงบังคับใช้กฎหมาย ในพื้นที่ ม.1 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จว.ปัตตานี โดยจากการสืบสวนทราบว่า มีกลุ่ม ผกร. ใช้บ้านเช่าหลังที่เกิดเหตุ เป็นที่หลบซ่อน เพื่อเตรียมการก่อเหตุในพื้นที่ อ.สายบุรี จึงได้สนธิกำลัง เข้าพิสูจน์ทราบ ขณะเจ้าหน้าที่เจรจาให้คนร้ายมอบตัว คนรายได้ยิงอาวุธปืนใส่เจ้าหน้าที่ เกิดการปะทะเป็นเหตุให้คนร้าย เสียชีวิต จำนวน 2 คน ซึ่งจากเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ คนร้ายเสียชีวิต 2 คน

คดีที่ 4 เหตุคนร้ายปล้นรถยนต์กระบะ บริษัทหาดทิพย์ในพื้นที่ ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จว.นราธิวาส จากนั้น คนร้ายได้นำรถคันดังกล่าว ไปก่อเหตุปล้นร้านอัครวัสดุภัณฑ์ในพื้นที่ เทศบาลตันหยงมัส อ.ระแงะ จว. นราธิวาส เมื่อวันที่ 17 มี.ค.67 จากการสืบสวน ทราบว่า คนร้ายที่ร่วมก่อเหตุมีจำนวน 13 คน เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังเข้าบังคับใช้กฎหมาย จำนวน 8 เป้าหมาย ในพื้นที่ อ.จะแนะ และ อ.ระแงะ จว.นราธิวาส เมื่อวันที่ 23 มี.ค.67 สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเข้าสู่กระบวนการซักถาม จำนวน 6 คน ซึ่งให้การรับสารภาพว่าร่วมก่อเหตุ จำนวน 1 คน โดยอยู่ระหว่างการซักถามเพื่อขยายผลแนวทางการบังคับใช้กฎหมาย ของฝ่ายความมั่นคง คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน ไม่กระทำต่อผู้บริสุทธิ์ และจะทำการปิดล้อมตรวจค้น ต่อเมื่อมีพยานหลักฐานที่น่าเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวกับการก่อเหตุ เท่านั้น ในขั้นตอนการเชิญตัวสู่กระบวนการซักถาม มีการบันทึกวีดิโอตลอดทุกขั้นตอน โดยในกระบวนการซักถามตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก และ พรก.ฉุกเฉิน ผู้ถูกควบคุม สามารถปฏิบัติศาสนกิจได้ตามหลักศาสนา อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้ทุกวันและไม่มีการซ้อมทรมานแต่อย่างใด

พลตำรวจโท ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9/รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ระบุด้วยว่า ในห้วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ปฏิบัติโดย ยึดหลักสิทธิมนุษยชน นิติธรรม นิติรัฐ บังคับใช้กฎหมายด้วยความเสมอภาค โดยการรวบรวมพยานหลักฐาน เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และการพิจารณาในชั้นศาลทุกคดี