สำนักข่าวมาเลเซีย UTUSAN จวกยับ BRN ไม่จริงใจต่อการพูดคุยสันติสุข

จงใจสร้างความขัดแย้งในพื้นที่สร้างเรื่องรัฐไทยห้ามแต่งชุดมลายู ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริงนักการเมืองจากประชาชาติก็เคยออกมาปั่นข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น จนสังคมเข้าใจผิดว่าการแต่งชุดพื้นเมืองมาลายูในจชต.เป็นความผิด ถูกจับดำเนินคดี สนข.Utusan ลงมาจชต.สังเกตการณ์สถานการณ์ในพท.ยืนยันไม่มีเหตุการณ์อย่างที่ถูกปั่นจากแนวร่วม BRN และนกม.พรรคประชาชาติ

.

จากปีที่แล้ว เมื่อเยาวชนหลายคนที่แต่งชุดมลายูเข้าร่วมกิจกรรม MelayuRaya ที่จังหวัดปัตตานีของประเทศไทย และแกนนำถูกเจ้าหน้าที่รัฐเรียกตัวเพื่อเข้าให้ข้อมูล โดยต่อมามีความพยายามจากกลุ่มแกนนำผู้จัดงาน ส.ส.ของกลุ่มขบวนการโจรใต้ กลุ่มแบ่งแยกดินแดนโดยเฉพาะกลุ่ม BRN และ แนวร่วมในพื้นที่ ได้พยายามใช้ประเด็นดังกล่าวนั้นเป็นเครื่องมือโจมตีปล่อยข่าวใส่ร้ายต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ดดยพวกเขาได้เผยแพรข้อมูลเป็นการปลุกระดมและโฆษณาชวนเชื่อว่า เยาวชนที่ถูกเรียกตัว ไปสอบถามนั้นเพราะแต่งชุดมลายู ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาถูกเรียกตัวเนื่องจากได้กล่าว สุนทรพจน์เป็นการปลุกระดม

.

แม้แต่ในระหว่างการประชุมกระบวนการเจรจาสันติภาพระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนและรัฐบาลไทยในกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตัวแทนของกลุ่มBRN ทั้ง 6 คน ยังรับไม้ต่อพยายามสร้างความเข้าใจผิด โดยได้แต่งชุดมลายู และอ้างว่าเป็น“สัญญาณของการประท้วง” ที่แนวร่วมของตนถูกดำเนินคดี

อีกทั้งล่าสุด!! เมื่อวันที่ 13 และ 14 เมษายน เยาวชนมุสลิมชายและหญิงหลายพันคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยได้เข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองEidal-Fitrในหัวข้อ“OpenPatani, Palestinian Prayer” หรือ “Buka Patani, Doa Palestin” หรือเปิดปาตานี ดุอาร์ปาเลสไตน์ ซึ่งพวกเขาแต่งชุดมลายูโดยไม่มีการแทรกแซงหรือมีการสั่งห้ามจากเจ้าที่รัฐแต่อย่างใดเลย เจ้าหน้าที่ของไทยยังให้ความดูแลและอํานวยความสะดวกของผู้เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย

คําถามคือกิจกรรมดังกล่าวถูกคุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่? มีผู้เข้าร่วมคนใดถูกควบคุมตัวและถูกสอบสวนเนื่องจากพวกเขาแต่งชุดมลายูหรือไม่? คําตอบคือไม่มีใครถูกตั้ง ข้อหาใดๆงสิ้นแม้แต่คนเดียว

.

ในทางตรงการข้ามสิ่งที่เป็นปัญหาคือเมื่อแกนนำจัดกิจกรรมดังกล่าว กลับใช้กิจกรรมเป็นเครื่องมือ ในการเผยแพร่ปลุกระดมและการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อให้บรรลุตามความประสงค์ของฝ่ายแบ่งแยกดินแดนที่เรียกร้องเอกราชนั้นเอง

คําถามคืออะไรเป็นความเป็นอิสระ เอกราช ที่แกนนำบนเวทีพยายามปลุกระดม? มุสลิมทุกคนในประเทศไทยรวมทั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ต่างก็เป็นพลเมืองของประเทศเอกราชนั่นคือประเทศไทยไม่ใช่หรือ?

ดังนั้นจงได้หยุดการกระทําที่ทําให้เกิดความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป กลุ่มแบ่งแยกดินแดนโดยเฉพาะ BRN ต้องซื่อสัตย์และจริงใจเพื่อสร้างสันติภาพแทนที่จะเลือก แนวทางที่เป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง

อย่าได้พยายามปลุกระดมให้ประชาชนมุสลิมลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาลอีกต่อไป หากต้องการเห็นชาวมุสลิมอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ให้เรียกร้องใดบนโต๊ะเจรจา แทนการใช้กําลัง

เชื่อเถอะว่าประชากรมุสลิมส่วนใหญ่ของประเทศไทย ไม่สนับสนุนสิ่งที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนกําลังทําอยู่เพราะพวกเขารู้ว่าการต่อสู้ของกลุ่มดังกล่าวนั้นไร้ประโยชน์ และมีแต่ทำลายพื้นที่

อีกสิ่งหนึ่งคืออย่าใช้โฆษณาชวนเชื่อที่ไร้คุณค่า เพื่อลดความน่าเชื่อถือหรือใส่ร้ายต่อเจ้าหน้าที่รัฐไทย อย่างเช่นการห้ามไม่ให้แต่งชุดมลายู

.

หากเป็นเช่นนั้นจริง เป็นที่แน่นอนว่า การที่ ส.ส.พรรคประชาชาติ 7 คน เชื้อสายมลายูที่สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการแต่งชุดมลายูในการประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา จะถูก ควบคุมตัวหรือสอบปากคําจากเจ้าหน้าที่รัฐไปแล้ว

แต่ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะรัฐบาลไทยไม่ได้โง่เขลา ที่จะคิดว่าการแต่งชุดมลายูหรือเสื้อเชิ้ต ประเพณีดั้งเดิมของเชื้อชาติมลายูนั้นเป็นอันตรายต่อความมั่นคง